การลงทุนกับของสะสม เป็นรูปแบบการลงทุนที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ด้วยเสน่ห์ของการสะสม โอกาสในการทำกำไร และความหลากหลายของของสะสม

ของสะสมที่นิยมนำมาลงทุนมีหลากหลายแบบ

ของเก่า: ของเก่าที่หายาก มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ หรือวัฒนธรรม เช่น พระเครื่อง เหรียญเก่า ของสะสมโบราณวัตถุ

ของสะสมร่วมสมัย: ของสะสมที่ผลิตในยุคปัจจุบัน แต่มีจำนวนจำกัด หรือเป็นที่ต้องการของนักสะสม เช่น ของเล่น การ์ดเกม โมเดล

ของสะสมประเภทอื่นๆ: ของสะสมที่มีมูลค่าทางการเงิน หรือมีคุณค่าทางจิตใจ เช่น เพชร ทองคำ แบรนด์เนม

Passion Investment หรือ การลงทุนในของสะสม อาจไม่ได้เป็นเรื่องของรสนิยม หรือความฟุ่มเฟือยอย่างที่ใครหลายคนคิด เพราะการลงทุนชนิดนี้สามารถสร้างกำไรได้จริง ๆ หากผู้ลงทุนมีความเชี่ยวชาญ รู้กระแส จังหวะขายที่เหมาะสม และตัดใจขายของสะสมของตัวเองได้ ก็จะสามารถขายต่อแล้วได้กำไรกลับมาเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว

ยิ่งถ้าของสะสมชิ้นนั้น ๆ กำลังอยู่ในกระแส ได้รับความนิยมสูง สามารถเปลี่ยนมือ หรือส่งต่อได้ง่าย ก็จะยิ่งทำกำไรได้มากยิ่งขึ้นตามไปด้วย แต่การลงทุนกับของสะสมนั้นก็มีความเสี่ยง เพราะขึ้นชื่อเรื่องของความผันผวนในเรื่องของมูลค่า ราคาขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ขายและผู้ที่ต้องการจะครอบครอง ไม่มีมาตรวัดที่ตายตัว แต่ถ้าของมันต้องมี ผู้มีใจรักต่างพร้อมดั้นด้นแสวงหามาครอบครองให้จงได้

ทั้งหมดนี้คือปัจจัยที่ทำให้การลงทุนในของสะสม มีทั้งเสน่ห์ และความน่าประหลาดใจ ชวนให้คนภายนอกรู้สึกฉงนใจ เมื่อได้เห็นว่าราคาซื้อขายหรือราคาประมูลของสะสมแต่ละอย่าง พุ่งทะยานติดลมบนไม่แพ้ทรัพย์สินใดในโลกเลย

โดยของสะสมที่เป็นที่นิยมมาอย่างช้านาน คงหนีไม่พ้นนาฬิกา อัญมณี กระเป๋าแบรนด์เนม งานศิลปะ รถคลาสสิค หรือเหรียญกษาปณ์ ที่ถือได้ว่าเป็นไอเท็มยอดฮิตตลอดกาล สายสะสมต้องมีสักหนึ่งอย่างในนี้แน่นอน และของสะสมอีกอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะกำลังเป็นกระแส นั่นก็คือ Art Toy ที่ใครหลายคนให้ความสนใจนั่นเอง

อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงคิดว่าการลงทุนในของสะสมอาจไม่คุ้มค่า ข้อดีของการลงทุนผ่านของสะสมมันก็มี ที่ใครอาจมองข้ามไป!

1. เป็นความสุขที่จับต้องได้

ของสะสมส่วนใหญ่คือทรัพย์สินทางกายภาพที่เจ้าของสามารถมองเห็น และจับต้องได้ สร้างความเพลิดเพลินทางกายและใจให้กับผู้สะสม ไม่เหมือนกับการลงทุนอื่น ๆ

2. ช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุน

การลงทุนในของสะสมสามารถช่วยกระจายพอร์ตการลงทุนได้ โดยที่ผู้ลงทุนจะเลือกลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกที่ไม่เกี่ยวข้องกับตลาดการเงิน ซึ่งการลงทุนเช่นนี้จะช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมที่เกิดจากความผันผวนของตลาดทุนได้

3. ถ้ารู้ลึกรู้จริง ลงทุนไปก็ได้ผลตอบแทน

เมื่อเวลาผ่านไป มูลค่าของของสะสมจะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เช่น งานศิลปะหายาก รถยนต์คลาสสิกที่ไม่ผลิตแล้ว นาฬิการุ่นลิมิเต็ด หรือ Art Toy ที่ไม่มีการผลิตซ้ำ ทำให้ของเหล่านี้อาจมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นเป็นหลายเท่าตัวเลยทีเดียวเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรจะศึกษาและติดตามราคาของของสะสมนั้นอยู่เสมอ เพื่อให้รู้จังหวะที่ควรขาย ไม่อยากนั้นผลตอบแทนที่ควรจะได้ อาจจะไม่มีมูลค่าเท่าเดิม

4. มีมูลค่าทางใจ ที่ประเมินค่าไม่ได้

การลงทุนในของสะสมมักสอดคล้องกับความสนใจ ความหลงใหล หรืองานอดิเรกส่วนตัวของผู้สะสม ยิ่งถ้าได้สะสมในสิ่งที่ชอบ ก็จะยิ่งทำให้รู้ลึก รู้จริง และสร้างกำไรจากของชิ้นนั้น ๆ ได้ อีกทั้งยังสามารถส่งต่อเป็นมรดกให้กับคนที่รักได้ด้วย

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการเลือกลงทุนกับของสะสมสามารถสร้างความสุขทางใจ และเพิ่มเงินในกระเป๋าได้จริง ๆ เพราะนอกจากจะสุขใจที่ได้สะสม “สิ่งที่เรารัก” หรือ “ของที่เราชอบ” แล้ว ยังมีโอกาสที่จะสามารถทำ “กำไร” ได้ไม่แพ้กับการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ เลย

ก่อนตัดสินใจลงทุนกับของสะสมควรพิจาราณาในหลายๆปัจจัย ทั้งความรู้ ความเข้าใจควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับของสะสมที่ต้องการลงทุน ประเภท มูลค่า แหล่งซื้อขาย ความสนใจ เลือกสะสมของที่ชื่นชอบจะช่วยให้มีความสุขกับการลงทุน ความเสี่ยงกับความผันผวนของมูลค่าของสะสม เงินทุนที่จะต้องใช้ในการซื้อขาย ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ระยะเวลาที่ต้องรอคอผลตอบแทน ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงสัดส่วนของการลงทุนกับของสะสมนี้ด้วยว่าต้องไม่มากจนเกินไปทำให้เงิน “จม” หากมีเหตุที่จำเป็นต้องใช้จะกลายเป็นวิกฤติทางการเงินของเราไปอีก จนอาจจะต้องขายของสะสมที่มีมูลค่าไปในนราคาที่ไม่เหมาะสม

👉🏻อยากปรึกษาการวางแผนการเงินหรืออยากเป็นที่ปรึกษาทางการเงินกดตามลิ้งค์ได้เลยค่าา 👇🏻

แอดไลน์ https://lin.ee/Pcz69g0

https://www.finrwealthbuilder.com/ หรือ 065-9138620